หลวงพ่อชา
หลวงพ่อชาได้ถือกำเนิดในครอบครัวใหญ่ที่มีความเป็นอยู่แบบเรียบง่ายสบายๆ โดยมีถิ่นอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเขตชนบททางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ในช่วงวัยรุ่น ท่านได้รับการบรรพชาเป็นสามเณร จนกระทั่งอายุครบ 20 ปี ท่านจึงได้รับการอุปสมบทเป็นพระภิกษุสงฆ์ ในระยะต้นของเพศบรรพชิต ท่านได้ศึกษาบทคำสอนของพระพุทธศาสนาตามคัมภีร์ต่างๆ แต่ในขณะเดียวกันภายในใจนั้นมีความปรารถนาที่จะแสวงหาครูบาอาจารย์ทางวิปัสสนากรรมฐานและมีความรู้สึกสลดใจต่อความย่อหย่อนในธรรมวินัยของพระสงฆ์ในวัดที่ท่านพำนักอาศัยอยู่ ดังนั้นท่านจึงได้ตัดสินใจออกเดินธุดงค์ พักอาศัยอยู่ตามป่า ตามถ้ำและป่าช้า ดำเนินชีวิตแบบสมถะรักษาธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด โดยมีจุดหมายเพื่อที่จะเสาะแสวงหาครูบาอารย์ทางวิปัสสนากรรมฐาน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือหลวงปู่มั่น
หลังจากที่ท่านได้ออกเดินธุดงด์ไปตามที่่ต่างๆโดยมิได้พำนักอาศัยอยู๋ ณ สถานที่ใดเป็นการถาวร จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2497 ท่านได้รับนิมนต์กลับบ้านเกิด เพื่อไปก่อตั้งวัดในเขตป่ารกทึบ หลายปีต่อมา วัดที่ท่านได้ก่อตั้งนั้น ซึ่งปัจจุบันคือวัดหนองป่าพง ได้ขยายขนาดใหญ๋ขึ้น มีทั้งพระ แม่ชีและเหล่าญาติโยมทั้งหลายมาเข้ารับการฝึกอบรมและปฏิบัติธรรมกับท่านอยู่เป็นเนืองๆ ข้อวัตรปฏิบัติภายในวัดและหลักคำสอนของท่านยึดตามแนวทางสายวัดป่าที่มุ่งเน้นการดำเนินชีวิตแบบสมถะเรียบง่าย เคร่งครัดในการรักษาศีลและวินัย หมั่นเร่งความเพียรในการเจริญสมาธิและวิปัสสนาภาวนาเพื่อความสงบภายในจิตใจ โดยไม่ใส่ใจมากนักกับความรู้ในคัมภีร์ ถึงแม้ว่าข้อวัตรปฏิบัติตามแนวทางสายวัดป่านี้จะเป็นที่คุ้นเคยและยอมรับกันโดยทั่วไป วัดป่าต่างๆและครูบาอาจารย์แต่ละท่านก็มีอุบายการสอนและการปฏิบัติที่แตกต่างกันไปบ้างตามจริตนิสัย สำหรับหลวงพ่อชานั้น ท่านมุ่งเน้นการอยู่ร่วมกันเป็นหมู่คณะและให้ความสำคัญกับสัมมาทิฏฐิคือความเห็นชอบ ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของหนทางการปฏิบัติภาวนาเพ่ือนำเข้าสู่กระแสนิพพาน
คุณลักษณะเด่นชัดของหลวงพ่อชาคือ การยึดถือหลักคุณธรรมและความเป็นน้ำหนึ่งอันเดียวกันของหมู่คณะอย่างมั่นคง มีอารมณ์ขันและอ่อนน้อมถ่อมตน ท่านทุ่มเทชีวิตจิตใจต่อการปฏิบัติภาวนาในทุกขณะปัจจุบัน ยิ่งไปกว่านั้นท่านยังสามารถถ่ายทอดสื่อสารธรรมะและมีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลทุกเพศ ทุกวัย ทุกสาขาวิชาชีพได้อย่างเป็นกันเอง คำสอนของท่านมีความหมายลึกซึ้ง แต่สามารถเข้าใจได้ง่าย เน้นการปฏิบัติภาวนาในชีวิตประจำวัน ในช่วงเวลาที่ท่านยังดำรงชีพอยู่ ลูกศิษย์ลูกหาได้ริเริ่มและจัดตั้งวัดป่าสาขาในสายหลวงพ่อชาเป็นจำนวนมาก และถึงแม้ว่าท่านได้ละสังขารไปแล้วในปี พ.ศ. 2535 การจัดตั้งวัดป่าสาขาในสายหลวงพ่อชาก็ยังคงดำเนินสืบต่อมา ปัจจุบันมีวัดป่าสาขาในสายหลวงพ่อชาจำนวนมากกว่า 300 สาขาทั่วประเทศไทยและทั่วโลก เนื่องจากสภาพสิ่งแวดล้อมทางกายภาพของสถานที่ตั้งวัดป่าสาขาต่างๆมีความแตกต่างกันอย่างมาก ดังนั้นรายละเอียดของข้อวัตรปฏิบัติบางอย่างอาจได้รับการปรับเปลี่ยนโดยยังคงรักษาความเป็นอยู่แบบเรียบง่าย ความไม่ประมาทและเคร่งครัดในธรรมวินัย ทั้งนี้เพื่อเป็นการช่วยสนับสนุนและเอื้อต่อนักบวชและผู้ปฏิบัติธรรมที่พำนักอาศัยอยู่ในวัดสาขานั้นๆให้ยังคงสามารถดำรงชีพแบบสมถะ เอาใจใส่จดจ่อต่อการรักษาศีล เจริญสมาธิและวิปัสสนาภาวนา